ศาลอาญาออกหมายจับ ธาริต เพ็งดิษฐ์ สมัยก่อนอธิบดีดีเอสไอ -พวก ปฏิบัติภารกิจไม่ดี แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าคนเสียชีวิต สิทธิพิเศษ – สุเทพ สลายการรวมกันปี 53 ข้างหลังเจ้าตัวอ้างป่วยอ้างผ่าตัด ศาลชี้เป็นเหตุถ่วงเวลาเชื่อจะหลบซ่อน เลื่อนชี้ขาด 24 มี.ค.
ตอนวันที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์ ที่ห้องตรึกตรอง 811 ศาลอาญา ถนนหนทางรัชดาภิเษก ศาลนัดหมายอ่านคำบัญชา/ คำตัดสินศาลฎีกา ครั้งที่ 7 คดีทำหน้าที่ไม่ดี ลำดับที่ดำ อำเภอ310/2556 ที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สมัยก่อนนายกฯ แล้วก็ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ สมัยก่อนรองนายกฯ และก็อดีตกาล ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการปรับแก้เหตุการณ์รีบด่วน (ผู้อำนวยการพระศอฉ.) ด้วยกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ สมัยก่อนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พันตำรวจโทวรรณะดงษ์ คชรักษา สมัยก่อนหัวหน้าชุดสอบสวนคดีการตายของพลเมือง แล้วก็เจ้าหน้าที่รัฐ จากเหตุร้ายแรงด้านการเมือง ปี 2553 พันตำรวจตรียุทธที่นา แพรดำ รวมทั้ง ร้อยตำรวจเอกปิยะ รักสกุล ในฐานะพนักงานที่ทำหน้าที่สอบสวน เป็นเชลยที่ 1-4 ในข้อผิดพลาดฐาน “เป็นเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่โดยไม่ถูกต้องหรือโดยคดโกง และก็เป็นเจ้าหน้าที่สอบปากคำทำการ โดยมีเจตนาแกล้งให้คนอื่นได้รับโทษอาญา” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 รวมทั้ง 200 วรรคสอง
เชลยทั้งยังสี่ให้การไม่ยอมรับ ต่อสู้คดี
คดีนี้ศาลชั้นต้น ชี้ขาดยกฟ้องเชลยอีกทั้งสี่
โจทก์ ขออุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ตรึกตรอง แล้วมีความคิดเห็นว่า เชลยทั้งยังสี่กระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษ์กลับ ให้ติดตะรางเชลยอีกทั้งสี่คนละ 3 ปี ลดโทษให้1ใน3 อาจจะติดคุกเชลยคนละ 2 ปี
เชลยทั้งยังสี่ยื่นศาลฎีกา กล่าวถึงว่า มีหลักฐานใหม่ในคดี ขอให้ศาลฎีกา พิเคราะห์ ตัดสินคดีใหม่ แล้วก็นายธาริต เชลยที่ 1 มอบหมายให้ทนายยื่นคำร้องขอเลื่อนฟังคำตัดสินศาลฎีกาออกไปก่อนโดยบอกเหตุผลแตกต่างหลายคราว โดยคราวหลังสุด ขอเลื่อนโดยบอกเหตุผลเนื่องด้วยจำเป็นต้องผ่านิ่วในไตอีกทั้ง 2 ข้าง ใช้เวลารักษานานราว 4 เดือน และ นางจังหวัดพะเยาว์ อัคฮาด คุณแม่ นางสาวใจ หรือน้องเกด อัคฮาดพยาบาลสมัครใจที่เสียชีวิตที่วัดปทุมวนารามตอนวันที่ 19 เดือนพฤษภาคม 2553 แล้วก็พี่น้องผู้ตายราย อื่นๆยื่นคำร้องขอเข้ามาเป็นคู่กรณีลำดับที่สามในคดีด้วย
ศาลอาญาก็เลยมีคำบัญชาให้ส่งคำขอทั้งปวงให้ศาลฎีกา พินิจพิเคราะห์เพื่อมีคำบัญชาคำขอ โดยองค์แผนกตุลาการศาลฎีกาจะพิเคราะห์ผ่านระบบจอภาพผ่านศาลอาญา
นัดหมายฟังคำตัดสินหรือคำสั่งโดยศาลศาลฎีกาวันนี้ ทนายความโจทก์ที่1-2 เชลยที่ 2-4 ทนายความเชลยที่ 1 บุคลากรอัยการในฐานะทนายความเชลยที่3,4 ผู้รับมอบอำนาจผู้ค้ำประกันเชลยอีกทั้ง4มาศาล ส่วนเชลยที่ 1รู้นัดหมายโดยชอบแล้วไม่มา
ทนายความเชลยที่ 1 ยื่นคำร้องว่าตามที่ได้แถลงต่อศาลในนัดหมายที่แล้วว่า เชลยที่ 1 ป่วยเป็นโรคนิ่วในไตด้านซ้ายแล้วก็ทางขวา ถัดมาในวันที่ 29 เดือนมกราคม 2566 เชลยที่ 1 ได้เข้ารับการดูแลรักษาที่โรงหมอศิริราชปิยมหาราชความกรุณาโดยหมอได้กระทำการผ่าตัดส่องกล้องผ่านท่อไตแล้วก็ใส่สายระบายเลือดเอาไว้ภายในท่อไตทั้งสองข้าง เชลยที่ 1จำเป็นที่จะต้องรักษาตัวในโรงหมอเพื่อพักฟื้นและก็จะต้องติดตามอาการตรงเวลา 3เดือน เพื่อประเมินภาวะไตแล้วก็ก้อนนิ่วอีกที เนื้อหาตามคำอ้อนวอนเลื่อนคดี ฉบับระบุวันที่ 1 ก.พ. 2566 พร้อมเอกสารแนบ
สำเนาคำขอให้คู่กรณีทุกฝ่ายแล้วทนายความโจทก์ที่ 1 แถลงว่า ไม่ทักท้วงการขอเลื่อนคดี โดยขอให้เป็นดุลยพินิจของศาล แม้กระนั้นขอให้ศาลกำหนดมาตรการเพื่อสั่งย้ำให้มีการอ่านคำวินิจฉัยหรือคำสั่งจากศาลศาลฎีกาโดยด่วน เพราะคดีนี้มีการขอเลื่อนเพื่ออ่านคำวินิจฉัยหรือคำสั่งโดยศาลศาลฎีกาในคราวนี้เป็นครั้งที่ 7แล้ว
ส่วนทนายความโจทก์ที่ 2 แถลงว่า ไม่แย้งการ ขอเลื่อนคดี แม้กระนั้นขอแถลงเพิ่มอีกว่า ตามใบรับรองแพทย์ที่ทนายความเชลยที่ 1ยื่นมาด้านหลังคำขอให้ช่วยเหลือเลื่อนคดีนั้น กล่าวว่า เชลยที่ 1จำต้องรักษาตัวในโรงหมอเพื่อพักฟื้น รวมทั้งจำเป็นต้องติดตามอาการตรงเวลาอีกราวๆ 3เดือน เป็นการไม่กระจ่างแจ้งว่าเชลยที่ 1มีความสำคัญจำต้องเข้ารับการดูแลรักษาตัว โดยอยู่ที่โรงหมอตลอดเวลาทั้งยัง 3เดือนหรือเปล่า
ศาลพินิจพิเคราะห์แล้วมีความเห็นว่า เมื่อใคร่ครวญตามคำขอความช่วยเหลือเลื่อนคดีของเชลยที่ 1 ประกอบเอกสารแนบแล้ว ปรากฎเพียงว่าเชลยที่ 1ได้กระทำการรักษาโดยการผ่าตัดส่องกล้องผ่านท่อไตช่วงวันที่ 29 เดือนมกราคม 2566 จำต้องพักฟื้นที่โรงหมอรวมทั้งจำต้องติดตามอาการตรงเวลาสามเดือนเพื่อประเมินภาวะไตและก็ก้อนนิ่วอีกที
แต่ว่าหมอมิได้แจ้งว่าเชลยที่ 1 จำเป็นจะต้องเข้ารับการดูแลและรักษาด้วยการผ่าตัดในทันทีทันใดหรือจำต้องผ่าตัดเร่งด่วนในวันรวมทั้งเวลาไหน รวมทั้งจึงควรรักษาตัวที่โรงหมอตลอดเวลา 3เดือนไหม อีกทั้งมิได้มีความเห็นว่าเชลยที่ 1 มีลักษณะอาการซึ่งรู้สึกเจ็บเจ็บป่วยถึงกับขนาดที่ไม่สามารถที่จะเดินทางมาศาลในวันนี้ได้ ประกอบกับเชลยที่ 1 ขอเลื่อนคดีโดยอ้างเหตุไม่สบายมาแล้วหลายหนตรงเวลากว่าหนึ่งปี น่าเชื่อถือว่าการที่เชลยที่ 1 ไม่มาศาลเป็นการหน่วงคดีให้ชักช้า ตามความประพฤติก็เลยมีเหตุให้มั่นใจว่าเชลยที่ 1 แอบหนีก็เลยให้ออกหมายจับเชลยที่ 1 เพื่อนำตัวมาฟังคำตัดสินหรือคำสั่งของศาลศาลฎีกาถัดไป
ผู้รับประกันเชลยที่ 1ไม่ส่งตัวเชลยที่ 1ต่อศาลตามนัดหมาย จัดว่าไม่ทำตามสัญญารับรองให้ปรับผู้ค้ำประกันเชลยที่ 1เต็มตามข้อตกลง แจ้งผู้รับประกันเชลยที่ 1ให้ชำระค่าปรับต่อศาลข้างใน 15 วันนับจากวันนี้
ให้เลื่อนไปนัดหมายฟังคำวินิจฉัยหรือคำชี้ขาดศาลฎีกาในวันที่ 24 มี.ค. เวลา 09.00 น.จากที่คู่กรณีมีวันว่างตรงกันแจ้งเลื่อนการอ่านให้ศาลฎีการู้
นักข่าวแถลงการณ์ว่าสำหรับคำขอที่ผู้ร้องใส่เคยยื่นศาลฎีกา ในวันนี้ศาลฎีกาได้เเจ้งเลื่อนการไตร่ตรองคำบัญชา
ออกหมายจับ ธาริต ศาลชี้เป็นเหตุถ่วงเวลา เชื่อจะหนี เลื่อนคดี มัธยม157 แจ้งกล่าวอ้าง ‘มาร์ค-สุเทพ&…
